โดย..เสาเอก
รอเวลา .... รอเก็บเงินต่อก่อน
จวบจนปี พ.ศ. 2550 อยากถมที่แล้วล่ะ เพราะต้องรอดินทรุดจนทรงตัวก่อน
จากนั้นอีก 2-3ปี จึงจะปลูกบ้านได้ แล้วถมที่จะถมอย่างไร ต้องถมด้วยดินอะไร
ต้องแบ่งพื้นที่ไว้ก่อน ราคาถมที่เท่าไหร่ ค่อยๆหาคำตอบต่อไป
เริ่มจากปรึกษาน้องที่เรียนสถาปัตย์ landscape ได้แบ่งโชนคร่าวๆให้ว่าที่ดินที่ติดแม่น้ำควรเป็นดินดำเอาไว้ปลูกต้นไม้
ถัดมาเป็นพื้นที่จะปลูกบ้าน ใช้ดินซีแลค ช่วงถัดมาจากบ้านจนทางเข้าออกสู่ถนน เป็นพื้นที่ทำสวนต้นไม้ก็ลงดินดำอีก
ได้ข้อสรุปเรียกผู้รับเหมาถมดินมาประเมิน ต้องรื้อบ้านเดิมของคุณป้าออกก่อน ต้องเสียค่ารื้อถอน
และบ้านที่รื้อเสร็จเป็นไม้เก่าแก่...น่าเก็บไว้เผื่อไว้ปลูกบ้าน
แต่ต้องหาที่เก็บไม้ และต้องระวังปลวกอีก จะย้าย จะเก็บที่ไหน
โชคดีได้ รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันช่วยดำเนินการจัดเก็บให้หมด การถมดินมี 2 แบบ
คือถมเป็นคันรถ ถมไปเรื่อยๆจนเราพอใจ นับคันรถกัน กับแบบที่ประเมินราคาว่าถมดินให้ได้ระดับที่เราต้องการ
สูงขึ้นจากเดิมเท่านี้ ราคาเท่านี้ ไม่ต้องนับคัน เจ้าของไม่ต้องมาเฝ้ามาก
สำหรับคนไม่ค่อยมีเวลาอย่างเราจึงเลือกอย่างหลัง บริเวณที่จะถมดิน
ด้านที่ติดริมแม่น้ำจะลุ่มมากๆ ถ้าถมดินให้เสมอถนนด้านหน้าต้องถมดินประมาณ 4 เมตร
โอ โห ถมดินเท่าความสูงตึก 1 ชั้น ที่ต่ำมากๆ แต่ที่สำคัญค่าถมดิน ก็เลยบาน ....บาน..บาน....
....หลังถมดินเสร็จยังปลูกบ้านไม่ได้หรอก เพราะถมดินเยอะมากต้องรอดินทรุดตัวอีก 2-3 ปี ค่อยปลูกบ้าน
ดีไม่ดีอาจต้องถมดินเพิ่มนะ เพราะที่ลุ่มมากคิดว่าคงทรุดอีกเยอะ
จริง ๆ ไม่ได้รอดินทรุดอย่างเดียวหรอก รอเก็บเงินต่ออีก
เรื่องของบ้านเสาเอก จึงเป็นมหากาพย์เลย ... ยาว และนาน ....กว่าจะมาเป็นบ้านริมแม่น้ำ
- โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป -
ไปหน้า..สารบัญเรื่องจริงผ่านเน็ท
ประสบการณ์สร้างบ้านของเจ้าของบ้าน